เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
- บำรุงด้วยน้ำมันจากธรรมชาติ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ
- นวดศีรษะเป็นประจำ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ลดการทำลายเส้นผมจากการดัด ย้อม หรือทำสี
เคล็ดไม่ลับ! 7 วิธีแก้ผมหงอกโดยธรรมชาติ
“ผมหงอก” เป็นปัญหาเส้นผมที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย และเป็นปัญหาที่สามารถส่งผลต่อภาพลักษณ์ จนอาจทำให้เกิดความกังวล หรือไม่มั่นใจ จนเสียบุคลิกภาพได้ โดยในปัจจุบันนั้นก็มีวิธีการในการแก้ปัญหาผมหงอกที่เป็นที่นิยม นั่นก็คือ “การย้อมสีผม” ที่เป็นการใช้สารเคมีย้อมผม เพื่อปิดผมหงอก ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ และอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ หรือระคายเคืองตามมาได้ และถ้าหากทำการย้อมสีผมเป็นประจำในระยะยาว อาจทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งได้ แต่ว่าก็ยังมีทางเลือกในการแก้ผมหงอกที่สามารถช่วยแก้ปัญหาผมหงอกได้อย่างปลอดภัย ด้วย “วิธีแก้ผมหงอกโดยธรรมชาติ” ที่ช่วยบำรุงเส้นผม และหนังศีรษะจากภายในสู่ภายนอก ซึ่งในแต่ละวิธีนั้นเป็นวิธีที่จะใช้สารสกัดจากธรรมชาติ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิต การรับประทานอาหาร การพักผ่อน การออกกำลังกาย และการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจาดธรรมชาติ ที่มีสรรพคุณในการช่วยแก้ผมหงอก และปัญหาผม หรือหนังศีรษะต่างๆ อย่างเช่น Hair Tonic จาก My Organic ที่มีสารสกัดจาธรรมชาตินานาชนิด ที่ช่วยแก้ปัญหาผมหงอก ผมร่วง ผมบาง รังแค หรือปัญหาผม และหนังศีรษะต่างๆ ได้จากสาเหตุ ทำให้ผม และหนังศีรษะมีสุขภาพดี แข็งแรง และสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ในระยะยาว ดังนั้น ในบทความนี้ทาง My Organic Thailand จึงจะมาแนะนำ 7 วิธีแก้ผมหงอกโดยธรรมชาติแบบง่ายๆ ที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน สะดวกสบาย ปลอดภัย และสามารถเริ่มต้นได้ทำได้ทันที เพื่อให้ทุกคนได้กลับมามีผมที่มีความดกดำ แข็งแรง เงางาม ที่สามารถช่วยเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง เห็นผลลัพธ์ชัดเจนได้ในระยะยาว รวมถึงไร้ความกังวลในเรื่องของปัญหาผม และมั่นใจในบุคลิกภาพของตัวเองได้ดังเดิม
1. บำรุงด้วยน้ำมันจากธรรมชาติ
การบำรุงเส้นผม และหนังศีรษะด้วยน้ำมันจากธรรมชาติ เป็นวิธีแก้ผมหงอกโดยธรรมชาติที่สามารถทำได้ทุกวัน เพราะว่าน้ำมันจากธรรมชาตินั้นจะช่วยบำรุงเส้นผม และหนังศีรษะให้มีความชุ่มชื้น มีสุขภาพดี แข็งแรง และช่วยชะลอ หรือป้องกันการเกิดปัญหาผม และหนังศีรษะต่างๆ ได้ เช่น ผมหงอก ผมร่วง ผมบาง หรือรังแค เป็นต้น โดยน้ำมันจากธรรมชาติแต่ละประเภทที่เป็นที่นิยมนั้นมีวิธีการใช้งาน สารอาหาร และคุณประโยชน์ต่างๆ ดังนี้
1.1 น้ำมันมะพร้าว
น้ำมันมะพร้าว เป็นน้ำมันจากธรรมชาติที่อุดมไปด้วยกรดไขมันดี, วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระ โดยมีวิธีการใช้งานง่ายๆ แค่เพียงนำน้ำมันมะพร้าวนวดลงบนหนังศีรษะ และลูบไล้บริเวณเส้นผม พร้อมกับทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที และล้างออก ประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็สามารถช่วยบำรุงผม และหนังศีรษะให้มีความชุ่มชื้น และแข็งแรงมากยิ่งขึ้น พร้อมกับช่วยป้องกันการขาดหลุดร่วงของเส้นผม และการเกิดใหม่ของผมหงอกได้เป็นอย่างดี
1.2 น้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอก เป็นน้ำมันจากธรรมชาติที่อุดมไปด้วยวิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระ โดยมีวิธีการใช้งานง่ายๆ แค่เพียงนำน้ำมันมะกอกลูบไล้บริเวณเส้นผมไปทั่ว พร้อมกับทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที และล้างออก ประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมได้เป็นอย่างดี และช่วยชะลอ หรือป้องกันการเกิดของผมหงอกได้
1.3 น้ำมันงา
น้ำมันงา เป็นน้ำมันจากธรรมชาติที่อุดมไปด้วยกรดไขมันดี, วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระ โดยมีวิธีการใช้งานง่ายๆ แค่เพียงนำน้ำมันงามานวดลงบนศีรษะให้ทั่ว หรือนำมาผสมกับน้ำมันมะพร้าวในอัตราส่วนที่เท่ากัน พร้อมกับนวดลงบนหนังศีรษะ และลูบไล้ให้ทั่วเส้นผม แล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที และล้างออก ประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็สามารถช่วยบำรุง และหนังศีรษะให้มีความชุ่มชื้น แข็งแรง และสุขภาพดีขึ้น และช่วยป้องกันการเกิดใหม่ของผมหงอกได้
1.4 น้ำมันละหุ่ง
น้ำมันละหุ่ง เป็นน้ำมันจากธรรมชาติที่อุดมไปด้วยกรดริซิโนเลอิก, วิตามินอี, โปรตีน และกรดไขมัน โดยมีวิธีการใช้งานง่ายๆ แค่เพียงนำน้ำมันละหุ่งนวดลงบนหนังศีรษะให้ทั่ว และลูบไล้บริเวณเส้นผม พร้อมกับทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และล้างออก ประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็สามารถช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมได้ดี ช่วยปกป้องเส้นผมจากมลภาวะต่างๆ ช่วยบำรุงเส้นผม และหนังศีรษะให้มีความแข็งแรง ชุ่มชื้น เงางาม นุ่มลื่น และสุขภาพดี
1.5 น้ำมันทานตะวัน
น้ำมันทานตะวัน เป็นน้ำมันจากธรรมชาติที่อุดมไปด้วยวิตามินอี, กรดไขมันโอเมก้า 6 และกรดโอเลอิก โดยมีวิธีการใช้งานง่ายๆ แค่เพียงนำน้ำมันทานตะวันนวดลงบนหนังศีรษะ และลูบไล้บริเวณเส้นผมให้ทั่วถึง พร้อมกับคลุมด้วยผ้าเช็ดผม หรือหมวกสระผม ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และล้างออก ประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม และหนังศีรษะได้เป็นอย่างดี ช่วยปกป้องเส้นผม และหนังศีรษะจากมลภาวะต่างๆ ลดการระคายเคือง หรืออาการคันบนหนังศีรษะ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นผม และช่วยชะลอการเกิดของผมหงอกได้
2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีแก้ผมหงอกโดยธรรมชาติที่ทุกคนสามารถเริ่มทำตามกันได้ง่ายๆ และเป็นวิธีการดูแลเส้นผม และหนังศีรษะได้จากภายในสู่ภายนอก แถมยังช่วยให้สุขภาพร่างกายมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย โดยประเภทของอาหารที่เหมาะสมต่อการรับประทาน เพื่อบำรุงเส้นผม และหนังศีรษะ มีดังนี้
2.1 ปลาทะเล
ปลาทะเล หรือปลาที่มีไขมันสูง เช่น แซลมอน ทูน่า หรือแมคเรอเรล เป็นแหล่งสารอาหารของโอเมก้า 3, โปรตีน และวิตามินดี ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง และเงางาม พร้อมกับช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม และป้องกันการเกิดผมหงอก
2.2 ไข่
ไข่ เป็นแหล่งสารอาหารของโปรตีน, วิตามิน บี 12 และไบโอติน ที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างรากผมให้มีความแข็งแรง ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ช่วยชะลอ และป้องกันการเกิดของผมหงอกได้เป็นอย่างดี
2.3 ถั่ว และธัญพืชต่างๆ
ถั่ว และธัญพืชต่างๆ เช่น ถั่วลิสง อัลมอนด์ เมล็ดเจีย หรือข้าวโอ๊ต เป็นแหล่งสารอาหารของวิตามินอี, แมกนีเซียม, ซิงค์, ไบโอติน, โปรตีน และโอเมก้า 3 ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงเส้นผม และหนังศีรษะให้มีสุขภาพดี และแข็งแรง เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม และช่วยชะลอ หรือป้องกันการเกิดผมหงอกได้
2.4 ผักใบเขียว และผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง
ผักใบเขียว และผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ผักโขม คะน้า บรอกโคลี ส้ม กีวี สตรอเบอร์ หรือผลไม้ตระกูลเบอร์รีต่างๆ เป็นแหล่งสารอาหารของวิตามินเอ, วิตามินซี, สารต้านอนุมูลอิสระ, แคลเซียม และธาตุเหล็ก ที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างเม็ดเลือดแดง และเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังหนังศีรษะ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่สำคัญต่อเส้นผม บำรุงเส้นผม และหนังศีรษะให้มีความชุ่มชื้น สุขภาพดี และแข็งแรง และช่วยชะลอ หรือป้องกันการเกิดผมหงอกได้
2.5 โยเกิร์ต
โยเกิร์ต เป็นแหล่งสารอาหารของโปรตีน, วิตามินดี และวิตามิน บี 5 ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงเส้นผมให้มีความแข็งแรง เงางาม และดูมีน้ำหนัก ช่วยบำรุงหนังศีรษะให้มีความชุ่มชื้น และช่วยชะลอ หรือป้องกันการเกิดผมหงอกก่อนวัยอันควรได้เป็นอย่างดี
3. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแล และบำรุงเส้นผม และหนังศีรษะที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ เป็นวิธีแก้ผมหงอกโดยธรรมชาติที่จะต้องผลิตภัณฑ์ที่ปลอดจากสารเคมี และมีส่วนผสม หรือสารสกัดที่มาจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติในการบำรุง และดูเส้นผมให้มีความแข็งแรง และสุขภาพดีมากขึ้น พร้อมกับช่วยลดโอกาสที่จะเกิดการระคายเคือง อาการแพ้ หรือความเสียหายต่อเส้นผม และหนังศีรษะ โดยผลิตภัณฑ์ดูแล และบำรุงเส้นผมที่มีสารสกัดจากธรรมชาติที่ควรเลือกใช้นั้นก็จะมีทั้งแชมพู ครีมนวดผม ทรีตเมนต์ ออยล์บำรุงผม หรือเซรั่มบำรุงผม เพราะว่ามีความอ่อนโยน ช่วยลดการสะสมของสารเคมี และส่งเสริมเส้นผม และหนังศีรษะให้มีความแข็งแรง และสุขภาพดีได้ในระยะยาว อย่างเช่น Hair Tonic จากมายออแกนิค (My Organic) ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีแก้ผมหงอกโดยธรรมชาติ เพราะว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากธรรมชาตินานาชนิด ที่ช่วยดูแลเส้นผม และหนังศีรษะได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น
- Grey Verse เปปไทด์เลียนแบบ MSH ที่ช่วยเปลี่ยนผมหงอกเป็นผมดำ ทำให้จำนวน และการผลิตเม็ดสีของเซลล์ Melanocytes เพิ่มขึ้น
- Ginseng สารสกัดจากโสมที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต และกระตุ้นการงอกของผมใหม่
- Equisetum Arvense สารสกัดจากหญ้าหางม้าที่ช่วยให้เซลล์ผิวมีความกระชับมากขึ้น แข็งแรงขึ้น และชั้นผิวหนังแท้มีความหนามากขึ้น
- Teifolium Pratense สารสกัดจากโคลเวอร์แดงที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม และช่วยลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผม
- Arnimo เป็นสารสกัดจากดอกอาร์นิก้าที่ช่วยป้องกันการเกิดรังแค ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม และช่วยลดการเกิดผมหงอก
- Eclipta Prostrara เป็นสารสกัดจากกะเม็งที่ช่วยเสริมสร้างให้โครงสร้างผมมีความแข็งแรงขึ้น และช่วยลดปัญหาผมหงอกก่อนวัยอันควร
ดังนั้น ผู้ที่กำลังเผชิญกับปัญหาผมหงอก ผมร่วง ผมบาง หรือปัญหาผม และหนังศีรษะต่างๆ ที่อยากได้วิธีแก้ผมหงอกโดยธรรมชาติ หรือกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาผม และหนังศีรษะได้จากต้นตอ ก็สามารถเลือกใช้ Hair Tonic จาก My Organic ได้ เพราะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเส้นผม และหนังศีรษะได้อย่างตรงจุดแบบเป็นธรรมชาติ มีประสิทธิภาพ และสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ในระยะยาว
4. นวดศีรษะเป็นประจำ
การนวดศีรษะเป็นประจำ เป็นวิธีแก้ผมหงอกโดยธรรมชาติที่สามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เพื่อไปเลี้ยงรากผม ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมได้เป็นอย่างดี และช่วยลดความเครียด หรืออาการตึงของกล้ามเนื้อ รวมถึงยังสามารถช่วยให้นอนหลับสบายมากขึ้น และช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะได้ด้วย โดยขั้นตอนในการนวดศีรษะนั้นก็สามารถทำตามได้ง่ายๆ ดังนี้
- เริ่มต้นนวดจากขมับทั้งสองข้าง โดยใช้นิ้วชี้ และนิ้วกลางกดเบาๆ และนวดเป็นวงกลมเล็กๆ
- นวดบริเวณหน้าผาก โดยนวดเป็นเส้นตรงจากกลางหน้าผากไปด้านข้าง
- ใช้นิ้วทั้ง 10 นิ้ว กดเบาๆ ลงไปที่หนังศีรษะ และนวดเป็นวงกลมเล็กๆ จากด้านหน้าไปจนถึงด้านหลังศีรษะ
- ใช้นิ้วชี้ และนิ้วกลางกดเบาๆ ที่บริเวณท้ายทอย และนวดเป็นวงกลมเล็กๆ จากตรงกลางไปด้านข้าง
- ใช้นิ้วโป้ง หรือนิ้วหัวแม่มือกดลงไปบริเวณหลังใบหูทั้ง 2 ข้างเบาๆ และนวดเป็นวงกลมเล็กๆ
เพียงแค่ทำวิธีแก้ผมหงอกโดยธรรมชาติอย่างการนวดศีรษะเป็นประจำทุกวัน วันละ 5-10 นาที ในช่วงหลังตื่นนอน ช่วงเย็น หรือช่วงก่อนนอน ก็สามารถช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน แต่ที่สำคัญ คือ จะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ได้ในระยะยาว
5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นวิธีแก้ผมหงอกโดยธรรมชาติที่ร่างกายจะต้องได้รับการพักผ่อนที่มีคุณภาพ และปริมาณเหมาะสม เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซม และฟื้นฟูได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยเฉพาะในเรื่องของผมหงอก หรือปัญหาผม และหนังศีรษะอื่นๆ ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาผม และหนังศีรษะได้อย่างหลากหลาย เพราะว่าการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอนั้นสามารถช่วยลดความเครียด ที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดผมหงอกก่อนวัย และปัญหาผมร่วง ช่วยรักษาสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม ช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนที่ช่วยซ่อมแซม และสร้างเซลล์ผมใหม่ ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมได้ดีขึ้น และช่วยลดการอักเสบในร่างกายที่สามารถส่งผลต่อสุขภาพของหนังศีรษะได้ ดังนั้น ทุกคนจึงควรทำการปรับพฤติกรรมการนอนให้เหมาะสม เพื่อช่วยให้มีผมที่แข็งแรง และสุขภาพดีในระยะยาว ด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง และถ้าหากเลือกนอนหนุนหมอนสูงเล็กน้อย และเลือกใช้ปลอกหมอนเป็นผ้าไหม หรือผ้าซาติน ก็จะยิ่งช่วยให้สุขภาพหนังศีรษะ และเส้นผมดีมากยิ่งขึ้นได้ด้วย
6. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นวิธีแก้ผมหงอกโดยธรรมชาติที่จะต้องทำการออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และออกกำลังกายประมาณ 3-5 วันต่อสัปดาห์ โดยอาจจะเลือกออกกำลังกายที่ช่วยกระตุ้นเรื่องของเส้นผม และหนังศีรษะได้ เช่น การเดินเร็ว การวิ่งเหยาะๆ การเล่นโยคะ การว่ายน้ำ การปั่นจักรยาน หรือการเต้นแอโรบิก เป็นต้น ซึ่งการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนั้นจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังหนังศีรษะ ที่ช่วยให้รากผมได้รับสารอาหารมากขึ้น ช่วยลดความเครียด และช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมน ที่ช่วยให้เส้นผมเจริญเติบโต และลดปัญหาผมร่วง หรือผมหงอกก่อนวัย รวมถึงยังช่วยระบายเหงื่อ ที่ทำให้รูขุมขน และหนังศีรษะสะอาดมากขึ้น และช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือด ที่ช่วยให้เซลล์ผมแข็งแรงมากขึ้นด้วย ดังนั้น ผู้ที่มีปัญหาผมหงอก ปัญหาผม หรือหนังศีรษะต่างๆ จึงควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะไม่เพียงแต่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพของเส้นผม และหนังศีรษะที่ช่วยให้มีความสวยงาม และแข็งแรงได้ในระยะยาว
7. ลดการทำลายเส้นผมจากการดัด ย้อม หรือทำสี
พฤติกรรมในการทำลายเส้นผม และหนังศีรษะนั้นสามารถมาได้จากหลากหลายสาเหตุ ทั้งการดัดผม การกัดสีผม การย้อมผม การหนีบผม การไดร์ผม หรือการใช้ความร้อนกับผม เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถส่งผลให้ผมสุขภาพเสีย ชี้ฟู และไม่แข็งแรง เพราะว่าในแต่ละกระบวนการนั้นจะได้รับสารเคมี หรือความร้อน จนเส้นผมได้รับความเสียหายต่างๆ ดังนี้
- ผมแห้งเสีย และแตกปลาย เป็นปัญหาผมที่เกิดจากการเสียความชุ่มชื้น จนเกิดความอ่อนแอ มีอาการแห้ง แตกปลาย ไม่มีน้ำหนัก และดูสุขภาพเสีย
- ผมขาดหลุดร่วง เป็นปัญหาผมที่เกิดจากการที่สารเคมีทำลายผม และรากผม ทำให้ผมเกิดการขาด หรือหลุดร่วงได้ง่ายมากขึ้น
- ผมเปราะหักง่าย และชี้ฟู เป็นปัญหาผมที่เกิดจากสุขภาพเสีย ไม่มีน้ำหนัก ขาดความชุ่มชื้น และอ่อนแอ ทำให้ผมเกิดการเปราะหักได้ง่าย และมีปัญหาผมชี้ฟูที่ไม่พริ้วสวยเหมือนผมทั่วไป
ดังนั้น การลดการทำลายเส้นผมจากการดัด ย้อม หรือทำสี เป็นวิธีแก้ผมหงอกโดยธรรมชาติที่สามารถช่วยฟื้นฟู และซ่อมแซมให้ผม และหนังศีรษะมีสุขภาพดีขึ้น และช่วยลดปัญหาผมหงอกได้จากต้นตอได้ รวมถึงยังควรหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนกับเส้นผม พร้อมกับเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่มีความอ่อนโยนอย่างสม่ำเสมอ ที่ไม่เพียงแต่สามารถช่วยให้ลดความเสียหายของเส้นผม เติมความชุ่มชื้น และเสริมให้เส้นผม และหนังศีรษะมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยชะลอ และป้องกันการเกิดผมหงอกก่อนวัยได้ในระยะยาวด้วย